หมูชะมวง (ตำรับนี้รับประทานได้ประมาณ 4 คน)

 

Template 01
Template 01
Template 01
      “หมูชะมวง”เมนูหมูชะมวง อาหารพื้นบ้านของจังหวัดจันทบุรี ระยอง และตราด เป็นอาหารที่ถือว่าขึ้นหน้า ขึ้นตา ของคนภาคตะวันออก ถ้ามีงานเลี้ยงใด เช่น งานบวช งานแต่ง หรือมีแขกต่างถิ่นไปร่วมงาน หมูชะมวงก็จะถูกบรรจุไว้เป็นเมนูอาหารประจำงานนั้นทุกครั้งไปซึ่งได้ทานอาหารเมนูนี้แล้ว เราควรรู้ถึงคุณค่าทางโภชนาการว่ามีอะไรบ้าง
 
คุณค่าอาหารทางโภชนาการ

       แกงหมูชะมวง ก็เป็นแกงที่ ทางจังหวัดจันทบุรี และ ระยอง นิยมทำรับประทานกันมานานแล้ว เนื่องจากใบชะมวงเป็นพืชพื้นบ้านที่ซึ่งพบได้ทั่วไปในท้องถิ่นนั้น แล้วก็มีพบทางภาคใต้ด้วย สูตรที่เราทำตรงนี้ เป็นสูตรที่สถาบันโภชนาการพัฒนาขึ้นมา ให้กลุ่มแม่บ้านแม่บ้านเกษตรกรคลองนารายณ์ อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี ซึ่งสูตรนี้จะแตกต่างจากแกงชะมวงสูตรดั้งเดิมที่ชาวจันทบุรีเขาทำกัน เนื่องจากแกงชะมวงที่จันทบุรีจะหวานนำ และหวานจัดมากเลย ซึ่งจะไม่ค่อยเปรี้ยว เรานำมาปรับสูตรเพื่อที่จะให้มีความเปรี้ยวมากขึ้น เพื่อที่จะทำให้สามารถใส่กระป๋องแล้วปลอดภัย วิธีปรับสูตรก็คือจะลดปริมาณเนื้อหมูลง แล้วก็เพิ่มใบชะมวงมากขึ้น

       ในเรื่องของการกระจายพลังงานที่มาจากคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมัน พบว่าแกงหมูชะมวงมีปริมาณไขมันประมาณร้อยละ 50 ของพลังงานทั้งหมด ซึ่งสูงไป นักโภชนาการแนะนำว่าควรได้รับไขมันประมาณร้อยละ 30 แต่ในขณะเดียวกันเมื่อเรารับประทานร่วมกับข้าวแล้ว การกระจายตัวของพลังงานที่มาจากคาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน ค่อนข้างดี เนื่องจากว่า ตามหลักโภชนาการที่นักโภชนาการแนะนำ ควรได้รับคาร์โบไฮเดรต 50-60 เปอร์เซ็นต์ เมนูนี้ ได้ 52 เปอร์เซนต์ ส่วนโปรตีนตามทฤษฎีนักโภชนาการแนะนำ คือ 15 เปอร์เซ็นต์ แต่แกงหมูชะมวงเมนูนี้ ให้ 15.7 เปอร์เซ็นต์ ก็ถือว่าดี ส่วนไขมัน ตามทฤษฎี นักโภชนาการแนะนำไม่เกิน 30 เปอร์เซนต์ เมนูนี้ได้ 32 เปอร์เซ็นต์ เกินไปเล้กน้อย คุณค่าทางโภชนาการต่อหนึ่งหน่วยบริโภคของเมนูหมูชะมวงมีดังนี้

 

       สิ่งที่น่าเป็นห่วงของแกงชะมวงคือ โซเดียมสูง ก็คือเกลือสูงเกินไป เนื่องจากแกงมีรสจัด หวานจัด เปรี้ยวจัด ก็เลยต้องเค็มจัดด้วย นั่นเป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วง ก็คือว่า ถ้าคนเป็นโรคความดันโลหิตสูง ก็ไม่ควรที่จะกินแกงนี้มากเกินไป สิ่งที่เป็นประโยชน์ของแกงชะมวงก็คือ ประโยชน์จากใบชะมวง เพราะใบชะมวงเป็นพืชที่มีประโยชน์มาก ในเชิงของสารเชิงพันธภาพ ซึ่งช่วยทำให้ร่างกายได้รับสารไฟเบอร์หรือใยอาหาร ในขณะเดียวกันก็มีสารต้านอนุมูลอิสระจากใบชะมวงเอง

 
เครื่องแกงหมูชะมวง
วิธีทำเครื่องพริกแกงหมูชะมวง
- หอมแดงขนาดกลาง 5 หัว
- กระเทียมกลีบเล็กปอกเปลือก 13 กลีบ
- ข่าซอย 1 ช้อนตวง
- ตะไคร้ซอย 1 ช้อนตวง
- พริกแห้งซอย(เอาเม็ดออก) 3 เม็ดใหญ่
- กะปิ 1 ช้อนตวง
- เกลือ 1 ช้อนชา
   
เครื่องการหมักหมู
- หมูสันคอ 14 ชิ้น
- น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนตวง
- ซีอิ๊วดำ ช้อนตวง
- เกลือ 2 ช้อนชา
     
เครื่องปรุงหมูชะมวง
- หมูสันคอ (ที่ผ่านการหมักแล้ว) 14 ชิ้น
- ใบชะมวง 73 ใบ
- น้ำ 1 ถ้วยตวง
- น้ำมันพืช 3 ช้อนตวง
1.
นำพริกเม็ดใหญ่แห้งที่เตรียมไว้ผ่าแกะเอาเม็ดออก จากนั้นนำไปแช่น้ำจนนิ่ม แล้วยกขึ้นวางให้สะเด็ดน้ำ
2. จากนั้นนำพริกดังกล่าวพร้อม ข่าซอยละเอียด หัวหอมแดงขนาดกลาง ตะไคร้ซอย กระเทียม เกลือ มาโขลกจนแหลก
3. ใส่กะปิที่เตรียมไว้ลงไปโขลกจนเครื่องพริกแกงและกะปิเข้ากันเป็นเนื้อเดียวกัน  แล้วจึงตักขึ้นใส่ถ้วยพักไว้
   
วิธีเตรียมเนื้อหมูหมัก
  นำเนื้อหมูที่หั่นเตรียมไว้มาหมัก โดยใส่น้ำตาลปี๊บ  ซีอิ๊วหวาน และเกลือ ตามปริมาณที่เตรียมไว้ แล้วทิ้งตั้งไว้
   
วิธีทำหมูชะมวง
1. นำกระทะตั้งไฟ  ใส่น้ำมันพืช เสร็จแล้วใส่เครื่องพริกแกงที่เตรียมไว้ลงไปผัด โดยใช้ไฟอ่อนๆ พอ
2. พอเริ่มได้กลิ่นหอมพริกแกง ก็ใส่ใบชะมวงที่เด็ดเตรียมไว้ลงไป ผัดจนใบชะมวงสุก (สังเกตได้จากใบชะมวงเปลี่ยนสี)
3. จากนั้นนำหมูที่หมักเตรียมไว้ใส่ลงไปผัดรวมกัน  แล้วจึงเติมน้ำเปล่าลงไป  พอน้ำเดือด จึงใส่เกลือและน้ำตาลปี๊บ เคี่ยวต่อไปประมาณ 20 นาที จนเนื้อหมูนุ่ม ก็ปิดเตาไฟ แล้วยกกระทะลง ตักใส่จานเสิร์ฟ รับประทานกับข้าวสวยร้อนๆ
   
ข้อมูลคุณค่าโภชนาการโดย...รองศาสตราจารย์ วิสิฐ จะวะสิต
ริญ เจริญศิริ
วิทยากรการปรุงอาหาร...ยุพา นิยมวานิช
โครงการเผยแพร่และอนุรักษ์อาหารไทยผ่านเว็บไซต์สถาบันโภชนาการ
Go to Top